Last updated: 15 ม.ค. 2567 | 665 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัญหาผิวอักเสบผื่นแพ้ในเด็ก เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม เสื้อผ้าที่สวมใส่ แพ้อาหาร แมลงสัตว์กัดต่อย ผิวอับชื้นจากการใช้ผ้าอ้อมอยู่ตลอด หรือบางครั้งก็สามารถเกิดผื่นภูมิแพ้เฉียบพลันแบบไม่ทราบสาเหตุได้ สาเหตุทั้งหมดนี้ทำให้เกิดผดผื่นแดงคัน สร้างความเจ็บปวดให้ลูกน้อยเกิดอาการไม่สบายตัวได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เมื่อพบว่าลูกน้อยเกิดผื่นคัน ไม่ควรนิ่งนอนใจ หรือปล่อยให้มีโอกาสลุกลามเรื้อรังมากยิ่งขึ้นได้ ควรรีบหาสาเหตุ และรักษาบรรเทาอาการตั้งแต่เนิ่นๆ เรามาดูกันว่าทำไมถึงไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยมีปัญหาผิวอักเสบผื่นแพ้
1. ทำให้ส่งผลต่อพัฒนาการของลูก
ผื่นแพ้ ตุ่มคัน กวนใจลูกน้อย เกิดภาวะทางอารมณ์ที่ไม่แจ่มใส ทำให้ลูกน้อยงอแงไม่สบายตัวตลอดเวลา ส่งผลต่อพัฒนาการของลูก ทำให้เด็กหลับไม่เต็มอิ่ม อารมณ์แปรปรวน ขาดสมาธิ
2. ส่งผลให้แผลมีการอักเสบรุนแรงขึ้น จนอาจติดเชื้อได้
แม้ว่าผดผื่นแพ้ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายก็ตาม แต่หากไม่ใส่ใจดูแลอย่างถูกวิธี หรือลูกน้อยเกิดอาการคันแกะเกาโดยที่เล็บมือไม่สะอาด อาจทำให้แผลติดเชื้อได้เกิดภาวะแทรกซ้อนลุกลามมากยิ่งขึ้นได้ จึงควรรักษาบรรเทาอาการตั้งแต่เนิ่นๆ
3. ส่งผลต่อระบบขับถ่ายของลูก
ผื่นแพ้ โดยเฉพาะผื่นผ้าอ้อม ที่ลุกลามบริเวณก้น ขาหนีบ อวัยวะเพศ ทำให้เด็กรู้สึกแสบระคายเคืองเมื่ออุจระ ปัสสาวะออกมา เมื่อลูกน้อยรู้สึกเจ็บแสบ จะหลีกเลี่ยงโดยการกลั้นปัสสาวะอุจจาระ และจะส่งผลต่อระบบขับถ่ายของลูก เกิดการท้องผูก และกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
4. เกิดรอยแผลเป็น
ผื่นแพ้ แมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ตุ่มแพ้น้ำลายยุง ทำให้เกิดตุ่มคัน ยิ่งเด็กเล็กชอบใช้เล็บแกะเกาเวลาคัน ยิ่งทำให้เกิดรอยแผลเลือดออกได้ ทำให้ยากต่อการรักษาและเกิดรอยแผลเป็นได้ เมื่อตุ่มคันจึงควรทายาเพื่อบรรเทาอาการคัน หรือทาบาล์มแก้แพ้เพื่อบรรเทาและปลอบประโลมผิว และควรตัดเล็บให้ลูกอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกาที่รุนแรง
5. เกิดภาวะโคลิก (Colic)
ภาวะโคลิกในทารก คือ อาการที่ลูกน้อยร้องติดต่อกันเป็นเวลานาน มากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน และติดต่อกันหลายวันต่อสัปดาห์ พยายามปลอบให้หยุดร้องอย่างไรก็ไม่มีท่าทีหยุดลง ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลและเครียด ปกติแล้วสาเหตุมักจะมาจากอาการจุกเสียดแน่นท้อง แต่การเกิดผื่นแดงคันอักเสบ ทำให้ลูกน้อยแสบร้อนผิวและคัน เกิดอาการไม่สบายตัวตลอดเวลา จนเกิดภาวะทางอารมณ์ ทำให้ร้องไห้งอแงอยู่ตลอดเวลา จนอาจเกิดภาวะโคลิกได้เช่นกัน และจะส่งผลถึงการพัฒนาการของลูกน้อยได้
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 5 เหตุผลที่ไม่ควรปล่อยให้ลูกมีอาการผดผื่นแดงคันเป็นเวลานาน จนอาจเกิดการลุกลามยากรักษา และส่งผลเสียหลายอย่างที่คุณพ่อคุณแม่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราควรดูแลผิวลูกน้อยอย่างใส่ใจและพยายามหลีกเลี่ยงจากผื่นแพ้จะดีที่สุดค่ะ
การดูแลผิวลูกน้อย หลีกเลี่ยงจากผื่นแพ้
1. ให้ความชุ่มชื้นผิวลูกน้อย อย่างน้อย วันละ 3-4 ครั้ง ด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ ออยล์ หรือบาล์มที่เป็นออร์แกนิก ปราศจากน้ำหอม และสิ่งแปลกปลอมสารเคมี
บาล์มสำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อย โบทาแกนิค บาล์ม BOTAGANIC EVERYDAY SENSITIVE SKIN BALM อุดมด้วยน้ำมันโอเมก้า 3, 6, 9 โอเมก้าบาล์มนี้จะช่วยลดการระคายเคือง หยุดปัญหาผิวแพ้ ผิวแห้ง ผดผื่น แดง คัน และยังช่วยฟื้นบำรุงผิวลูกน้อยให้แข็งแรง
2. หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีค่า pH Balance ต่ำ จะทำให้ผิวลูกน้อยแห้งสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดผื่นแดงคันได้ง่าย ให้เลือกสบู่เหลวอาบน้ำสำหรับเด็ก สูตรอ่อนโยน มีค่า pH อยู่ที่ 4-7 หรือมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรส์เซอร์ และ ออยล์เพิ่มความชุ่มชื้นผิว
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่อุ่นจัด เป็นเวลานาน ให้ใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิเหมาะสม และจำกัดเวลาอาบประมาณ 10 นาที
4. หลีกเลี่ยงผ้าขนสัตว์ และไนลอน สวมใส่ผ้าคอตตอน หรือผ้าฝ้ายแทน และสวมเสื้อผ้าที่หลวมสบายตัว
5. ดูแลลูกเมื่อมีเหงื่อ ไม่ควรให้ลูกมีเหงื่อออกมากเกินไป และทิ้งไว้เป็นเวลานาน เมื่อลูกเหงื่อออกให้ใช้ผ้าคอยซับเบาๆให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณข้อพับต่างๆ และควรพาลูกอยู่ในที่ลมโกรกอากาศถ่ายเทดี
6 วิธีดูแลผิวลูกน้อย หน้าหนาว
เมื่อพบว่าหน้าหนาว ความชื้นในการอากาศลดลง ผิวของลูกน้อยควรได้รับการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ โบทาแกนิคชวนมาหาคำตอบให้คุณแม่คุณพ่อกันว่า วิธีดูแลผิวลูกน้อย ผิวทารก ช่วงหน้าหนาว มีวิธีดูแลอย่างไรบ้าง
18 ม.ค. 2567
10 พ.ค. 2567
8 มิ.ย. 2567
23 พ.ย. 2566